SKINCARE ROUTINE สไตล์ญี่ปุ่นเปลี่ยนชีวิต
- 530
- Tweet
วันนี้เรามีขั้นตอนการบำรุงผิวแบบสาวญี่ปุ่นมาฝากกัน ขอบอกว่าบางขั้นตอนเราก็ทราบดีอยู่แล้ว แต่ก็มีบางขั้นตอนเป็นเคล็ดลับความงามของพวกเธอจริงๆ มาดูสิว่าเขาดูแลผิวหน้ายังไงถึงดูสุขภาพดี รับรองว่าน่าทำตามเป็นที่สุดค่ะ
ล้างหน้า 2 รอบ
การล้างหน้ารอบแรกใช้คลีนซิ่งออยล์เพื่อเป็นการชำระล้างความมันและสิ่งสกปรกบนใบหน้าที่เราเผชิญมาทั้งวัน ซึ่งแน่นอนว่าถึงไม่ได้แต่งหน้าขั้นตอนนี้ก็สำคัญนะคะ การทำความสะอาดด้วยออยล์ในขั้นตอนแรกนั้นจะสลายความสกปรกได้ทั้งหมด แถมยังเป็นการบำรุงผิวไปในตัวด้วย ตามด้วยการทำความสะอาดใบหน้าด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า
เคล็ดลับของขั้นตอนนี้ คือ ในรอบแรกที่ใช้ออยล์ทำความสะอาดนั้น ให้ล้างบนหน้าที่แห้ง มือแห้ง ไม่มีการสัมผัสน้ำ โดยใช้นิ้วมือค่อยๆ นวดบนใบหน้า ขั้นตอนนี้แนะนำให้ใช้เวลากับมันสักหน่อยนะคะ เสร็จแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำ และเริ่มล้างหน้าอีกครั้งด้วยเจลหรือโฟมที่ใช้อยู่ แล้วล้างออกให้สะอาด
ขัดผิว
ถ้าเราขัดผิวเพียงอาทิตย์ละครั้งจะช่วยให้ผิวสดใสขึ้น เพราะได้กำจัดเซลล์ผิวที่แห้งตาย ความมัน และมลภาวะที่เราเผชิญมาตลอดให้หลุดไป
เมื่อผลัดเซลล์ผิวแล้ว แน่นอนว่าผิวจะพร้อมเปิดรับการบำรุงได้มากขึ้น เคล็ดลับของขั้นตอนนี้คือ ทำแค่อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และควรทำช่วงกลางคืนนะคะ หากคุณขัดผิวช่วงเช้า ก็อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยล่ะ เพราะหลังจากขัดผิวแล้วผิวหน้าของเราจะบอบบางมากๆ
ใช้โลชั่นหรือโทนเนอร์
การใช้โทนเนอร์ของสาวญี่ปุ่นนั้น (อาจจะเป็นบางคน) ไม่ได้เทลงบนสำลีอย่างที่เราทำกันนะคะ แต่เป็นการเทลงฝ่ามือแล้วค่อยๆ ตบลงบนใบหน้าเบาๆ ให้มันซึมซับลง เนื้อโทนเนอร์จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ซึ่งในโทนเนอร์นั้นอุดมไปด้วยส่วนผสมจำเป็นต่อผิวว่าจะเป็นไฮยาลูรอนิคและเซราไมด์ ขั้นตอนนี้จึงมีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่นๆ เลยค่ะ ที่สำคัญเลยคือการใช้โทนเนอร์แบบนี้ต้องมั่นใจว่าล้างหน้าสะอาดหมดจดแล้วจริงๆ นะคะ ถ้ายังไม่มั่นใจแนะนำให้ใช้สำลีแผ่นเช็ดดีกว่า
เอสเซ้นส์
มาถึงตอนนี้เราพร้อมจะบำรุงผิวอย่างจริงจังแล้วค่ะ เอสเซ้นส์เป็นสกินแคร์ที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมีประดับโต๊ะเครื่องแป้ง หากพูดว่าเอสเซ้นส์เราคงไม่เข้าใจ แต่ถ้าพูดว่ามันคือ น้ำตบ ก็คงจะอ๋อกันทันทีใช่มั้ยล่ะคะ สำหรับน้ำตบนั้นจะมีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวง่าย มีคุณสมบัติในการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ผิวอ่อนเยาว์ ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส ผิวหน้านุ่ม และเสริมความแข็งแรงให้ผิวด้วย
เซรั่ม
หลังจากลงน้ำตบหรือเอสเซ้นส์ไปแล้ว ก็ต่อด้วยเซรั่ม ซึ่งจะมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและหนักกว่าเอสเซ้นส์ สำหรับเซรั่มนั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้เฉพาะเจาะจงมากกว่า โดยเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการเซรั่มที่ช่วยในเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำ ช่วยเรื่องผิวแห้ง หรือเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพียงแค่หยดเซรั่มลงบนผิวตั้งแต่หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง และคาง แล้วค่อยๆ นวดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า รอให้เนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวประมาณ 2-3 นาที จึงพร้อมบำรุงในขั้นตอนถัดไป
ข้อควรระวังก็คือ หลังจากลงเซรั่มแล้วตามด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ทันทีอาจลดประสิทธิภาพของเนื้อเซรั่มไปเลย ดังนั้นจึงควรรอให้เซรั่มเข้าสู่ผิวให้ดีเสียก่อนจึงค่อยเริ่มขั้นตอนถัดไปค่ะ
เติมความชุ่มชื้นด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์
อีมัลชั่น เป็นโลชั่นเนื้อบางเบาที่มอบความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง แต่อีมัลชั่นก็มีให้เลือกหลายประเภทให้เหมาะกับสภาพผิวนะคะ คนผิวมันก็สามารถใช้อีมัลชั่นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ เพื่อป้องกันการอุดตันของผิวและยังป้องกันการเกิดสิวด้วย และนี่ก็เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการบำรุงผิวก่อนนอน
กันแดด
ครีมกันแดดจำเป็นมากๆ สำหรับการบำรุงผิว ยิ่งหากต้องออกไปข้างนอกการทากันแดดเป็นสิ่งที่ต้องทำเลยล่ะค่ะ เพราะหากผิวโดนแสงแดดทำร้ายก็ย่อมทำให้ผิวเสีย ซึ่งเกิดปัญหาผิวตามมาหลายอย่างทั้ง ริ้วรอย จุดด่างดำ และยังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วยนะคะ เพราะงั้นจึงควรทากันแดดทุกวัน และยังสามารถทาเพิ่มระหว่างวันได้อีกด้วย
ข้อมูลจาก thetruejapan.com/the-japanese-skin-care-routine-that-changed-my-life/